แม้ว่าโลกในปัจจุบันเหล่าวิศวกรจะมีการออกแบบตึกหลากหลายลักษณะ เพื่อชนะความท้าทายต่างๆ และมุ่งมั่นให้กลายเป็นแลนด์มาร์ค ณ สถานที่นั้นไป หรือแม้แต่ไม่สนรูปร่างขอเพียงความสูงสามารถทำลายสถิติโลก ซึ่งต้องบอกว่าการอาศัยอยู่บนตึกสูงคงมีความหวาดเสียวไม่น้อย เมื่อมองลงมาด้านล่าง หรือรับรู้ถึงการสั่นไหวหากมีสายลมพัดผ่าน ทว่าเรื่องเล่าเหล่านี้อาจดูเชยไปเลย เนื่องจากมีไอเดียของบริษัทนามว่า ” Clouds ” ชาวอเมริกัน ต้องการสร้างตึกแขวนห้อยลงมาจากดาวเคราะห์น้อย ได้ยินไม่ผิดแน่นอน หมายความว่าบริษัทนี้จะควํ่าลงมาหรือพูดง่ายๆ คือห้อยหัวยอดตึกลงมาพื้นโลก
สำหรับตึกนี้มีชื่อว่า ” Analemma Tower ” โดยจุดประสงค์ของการสร้างคือตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบความสูง ทั้งรักกันเคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องจากการโครจรของดาวเคราะห์น้อย อย่างที่เกริ่นข้างต้นว่าจะนำสายเคเบิ้ลที่มีความแข็งแรงมากยึดติดไว้กับดาวเคราะห์น้อยด้วย ดังนั้นดาวเคราะห์น้อยไปไหนตึกก็จะไปด้วยแน่นอน แต่ก็จะกลับมาในจุดเดิมเมื่อครบ 24 ชั่วโมง ขณะที่พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดเกิดขึ้นจากพลังงานแสงอาทิตย์ ส่วนนํ้าสร้างจากนํ้าฝนที่มีการกรั่นกรองให้สะอาดแล้ว
และก็อีกหนึ่งความพิเศษที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย เนื่องจากมีการโคจรตั้งแต่เหนือจรดใต้ ส่งผลให้สภาพอากาศหรืออุณหภูมิ รวมถึงวิวต่างๆ ก็จะไม่เหมือนกันแน่นอน อีกทั้งทางบริษัทยังบอกอีกว่าแต่ละชั้นผู้อาศัยจะได้รับความรู้สึกแตกต่างกันไป ดังนั้นราคาเข้าพักอาศัยจะแตกต่างกันด้วย
ส่วนใครที่สงสัยว่าโม้หรือเปล่าจะเกิดขึ้นจริงได้หรือ ต้องบอกว่านี่ไม่ใช่ไอเดียแหวกแนวอันแรกของบริษัทสถาปนิก Clouds Architecture Office เพราะก่อนหน้าได้ประกาศแน่วแน่ว่าจะสร้างการขนส่งในอวกาศ รวมถึงบ้านเอสกิโมสร้างจากเครื่องปริ้นท์ 3D นำไปตั้งบนดาวอังคาร โดยก็เป็นพาร์ทเนอร์กับองค์กร NASA ทั้งมีผลงานประจักษ์แล้วกับตึกสูงที่สุดในโลกตึกหนึ่งของประเทศดูไบ
ก็ไม่รู้ว่าหากเกิดขึ้นจริงจะสามารถอาศัยได้จริงหรือไม่ แล้วแต่ละวินาทีผู้อาศัยจะคิดอะไรอยู่ไหม เช่น จะเกิดเหตุอันใดกับสายเคเบิ้ลไหม ? หรือแม้แต่หากโคจรไปเจอสิ่งกีดขวางต่างๆ จะเป็นอย่างไรกัน !