เจเนอรัล มอเตอร์ส (GM) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาประกาศแผนงานด้านเทคโนโลยีของทางค่ายภายในปี 2030 โดยมุ่งเน้นที่จะผลักดันรถยนต์ไฟฟ้าที่จะมีระบบการขับขี่อัจฉริยะออกสู่ตลาด ถือเป็นการบ่งบอกทิศทางอนาคตตลาดยานยนต์โลกได้เป็นอย่างดีว่าจะไปในทิศทางใด
พร้อมกันนี้ทางค่ายยังมุ่งเป้าที่จะทำการตลาดรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าในประเทศจีนเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมาพวกเขาสามารถทำกำไรจากตลาดรถแดนมังกรที่ใหญ่ได้มากถึงเกือบ 1 ใน 5 ของผลประกอบการทั้งหมด
โดยในงานจัดแสดงพิเศษ PATAC Design Dome ที่เซี่ยงไฮ้ ทาง GM ได้ออกมาเน้นย้ำถึง แพลตฟอร์มพลังงานไฟฟ้า (EV) ของทางค่าย และเผยรายละเอียดว่ามีแผนจริงจังสำหรับการใช้พลังงานไฟฟ้าในประเทศจีน ไม่ว่าจะเป็น ระบบแบตเตอรี่ Ultium และรถพลังงานไฟฟ้ารุ่นต่อไปที่จะมีการเปิดตัวในประเทศจีน
พร้อมกันนี้ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่เมืองมะกัน ยังเผยตั้งเป้าลงทุนมากกว่า 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในอุตสาหกรรมยานยนต์แบบไฟฟ้า และแบบไร้คนขับ ภายในปี 2025 รวมถึงมีแผนจะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ประเทศจีนกว่า 40% ในอีก 5 ปีข้างหน้า
ประเด็นที่น่าสนใจก็คือพวกเขามีแผนที่จะผลิตรถยนต์ EV รวมถึงผลิตชุดแบตเตอรี่แบบใหม่ Ultium ที่มีความจุมากถึง 100 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง โดยทั้งหมดนี้จะถูกผลิตในประเทศจีนแบบเบ็ดเสร็จทั้งในเรื่องของการหาวัตถุดิบ จนสิ้นสุดกระบวนการส่งถึงมือลูกค้า เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านคุณภาพ และต้นทุน
สำหรับที่ผ่านมา รถยนต์ในเครือของ เจเนอรัล มอเตอร์ส (GM) ถือว่าให้ความสำคัญในตลาดรถยนต์ของประเทศจีนเป็นอย่างมาก โดยมีข่าวว่า Cadillac Lyriq รถเอสยูวีพลังไฟฟ้ารุ่นใหม่ในเครือของ GM ก็จะมีการเปิดตัวในแดนมังกรก่อนประเทศอื่น เช่นเดียวกับ Hong Guang MINI EV หรือ Baojun EVs รวมทั้งแบรนด์ Cadillac, Buick และ Wuling ก็จะรุกตลาดยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในจีนมากขึ้นแน่นอน
ขอขอบคุณ ข้อมูล :insideevs
